[นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่23 : love is sharing
หน้า 1 จาก 1
[นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่23 : love is sharing
คืนนั้นนอนร้องไห้ไปจนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ มารู้ตัวอีกที ตอนเช้ามืด ลุกขึ้นมายังไม่มีใครตื่น เลยออกไปเดินเล่นดีกว่า เดินเล่นให้ลมมันพัดเผื่อว่าอะไรมันจะดีขึ้น
“ตื่นแต่เช้าเลยหรอลูก”
“ครับ อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ”
นึกว่าใคร ที่แท้คุณพ่ออธิการน่ะเอง ท่านคงออกมาเดินเล่นตอนเช้าเหมือนกัน
“มีอะไรรึเปล่า พ่อว่าพักนี้ ลูกไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ”
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ พอดีผมแค่มีเรื่องที่ไม่สบายใจนิดหน่อยครับ”
“กานต์ ลูกเชื่อในแม่พระใช่มั้ย”
“ครับ คุณพ่อ”
“ถ้าอย่างนั้นลูกลองขอแม่พระดูสิ เผื่อว่าปัญหาของลูกมันจะมีทางออก”
“ครับ ผมจะลองดูครับ”
“วันนี้ตอนเย็น พ่อจะทำเทเซ่ ลูกช่วยเตรียมเพลงทีนะ”
“ครับ เดี๋ยวผมเตรียมให้ครับ”
หลังจากนั้น คุณพ่อพาเดินกลับมาที่บ้านพัก ผมเลยเดินขึ้นไปบนห้องตอนนี้พวกเพื่อนๆ ตื่นนอนกันเกือบหมดแล้ว ผมเดินเข้าไปหาไอ้บอยกับไอ้หนึ่ง
“ไปไหนมาวะกานต์”
“กูไปเดินเล่นมา ที่ชายหาดอ่ะ”
“โหไม่ปลุกกูเลย กูจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นมั่ง”
“ดูทำไม พระอาทิตย์ที่ไหนมันก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าที่นี่จะมีพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันสองดวงเมื่อไหร่”
“อ้าว มีแรงกวนตี...แล้วหรอวะ”
“กูไม่ได้เป็นอะรัยซะหน่อย”
“แล้วเมื่อคืนนี้หมาตัวไหนนอนร้องไห้จนหลับน้ำตาเปียกหมอนวะ”
บอยกระซิบถาม
“ไม่รู้ มันตายไปแล้วเว้ย ตอนนี้มีแต่หมาที่ร่าเริงเว้ย”
“เออ กูจะพยายามเชื่อดู”
“บอย มึงเล่นกีต้าร์ทีได้ป่าว พอดีคืนนี้พ่อเขาจะทำเทเซ่อ่ะ”
“หึ กูเล่นเป็นแต่ออร์แกนอ่ะดิ กีต้าร์กูไม่ถนัดไม่บอกไอ้นนท์ล่ะ”
“หึ กูไม่พูดกะมันอ่ะ”
“เรื่องอะไรอีกล่ะมึง”
“ก็...มันเป็นเพื่อนกะไอ้นั่นอ่ะดิ”
“มึงบ้าป่าว แล้วมึงไม่ใช่เพื่อนมันรึไง เดี๋ยวกูบอกมันเอง โอเคนะ”
เลยตามเลย ในเมื่อบอยมันบอกให้ จริงแล้วไม่ได้โกรธไอ้นนท์มากหรอกนะ แต่ด้วยทิฐิมั้ง เลยไม่ยอมไปพูดกะมันก่อน
หลังอาหารเช้าวันนั้นมีการแบ่งกลุ่มเพื่อแบ่งปันพระวาจากัน ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไร ทำให้ผมต้องไปอยู่กลุ่มเดียวกับไอ้ตั้ม ก่อนเริ่มคุณพ่ออธิการนำสวดภาวนาหลังจากนั้นก็ร้องเพลงจงแสวงหา จากนั้นคุณพ่อให้ผมเป็นคนเลือกบทอ่าน โดยวิธีการเลือกคือ นำพระคัมภีร์มาแล้วอธิษฐานจากนั้นเปิดไปหน้าไหนได้ ให้เลือกข้อความที่อ่านแล้วประทับใจมากที่สุด
ตอนนั้นผมอธิษฐาน ขอให้มีทางออก ในเรื่องที่ผมรู้สึกว่ากำลังประสบกับความทุกข์ใจอยู่เมื่อผมเปิดไปก็เป็นจดหมายจากนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 1 ข้อความที่ประทับใจนั้นมีอยู่ว่า
“เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็ก คิดอย่างเด็ก ใคร่ครวญหาเหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการเด็กเสีย
เพราะว่าบัดนี้เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจก แต่เวลานั้นจะได้เห็นหน้ากันชัดเจน เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ารู้แต่ส่วนหนึ่ง แต่เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนได้รู้จักข้าพเจ้าแล้วด้วย
ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ ความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด”
“กานต์ ลูกเข้าใจความหมายของบทอ่านตอนนี้มั้ย”
“ไม่ค่อยแน่ใจครับ คุณพ่อ”
“ความรัก คืออะไร ความรักคือ การแบ่งปัน Love is sharing ความรักคือการให้ กานต์ ความรักที่พระทรงมอบให้มนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่นะลูก คำว่าความรัก ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความสัมพันธ์กันทางกาย ขอเพียงความสัมพันธ์กันทางใจ ความรักนั้นเป็นสิ่งที่ดี ....”
จริงๆแล้วคุณพ่อท่านอธิบายมากกว่านี้แต่ผมเองจำไม่ค่อยได้เพราะมันนานมากแล้ว ตอนนั้นผมไม่ได้คิดเลยว่าคุณพ่อท่านต้องการที่จะสื่ออะไรบางอย่างถึงผม ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเปิดเจอบทอ่านหน้านั้น บางทีคำแนะนำที่ดีที่สุด เรากลับไม่ได้ให้ความสำคัญ เป็นเราเองที่ผลักไสสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเราออกไปเอง เป็นเราที่ทำลายสิ่งที่พยายามสร้างมันขึ้นมา ทำไมคนเราถึงไม่รู้ตัวกันเลย เวลาที่ทำลายสิ่งที่สำคัญลงไป
“ตื่นแต่เช้าเลยหรอลูก”
“ครับ อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ”
นึกว่าใคร ที่แท้คุณพ่ออธิการน่ะเอง ท่านคงออกมาเดินเล่นตอนเช้าเหมือนกัน
“มีอะไรรึเปล่า พ่อว่าพักนี้ ลูกไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ”
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ พอดีผมแค่มีเรื่องที่ไม่สบายใจนิดหน่อยครับ”
“กานต์ ลูกเชื่อในแม่พระใช่มั้ย”
“ครับ คุณพ่อ”
“ถ้าอย่างนั้นลูกลองขอแม่พระดูสิ เผื่อว่าปัญหาของลูกมันจะมีทางออก”
“ครับ ผมจะลองดูครับ”
“วันนี้ตอนเย็น พ่อจะทำเทเซ่ ลูกช่วยเตรียมเพลงทีนะ”
“ครับ เดี๋ยวผมเตรียมให้ครับ”
หลังจากนั้น คุณพ่อพาเดินกลับมาที่บ้านพัก ผมเลยเดินขึ้นไปบนห้องตอนนี้พวกเพื่อนๆ ตื่นนอนกันเกือบหมดแล้ว ผมเดินเข้าไปหาไอ้บอยกับไอ้หนึ่ง
“ไปไหนมาวะกานต์”
“กูไปเดินเล่นมา ที่ชายหาดอ่ะ”
“โหไม่ปลุกกูเลย กูจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นมั่ง”
“ดูทำไม พระอาทิตย์ที่ไหนมันก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าที่นี่จะมีพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันสองดวงเมื่อไหร่”
“อ้าว มีแรงกวนตี...แล้วหรอวะ”
“กูไม่ได้เป็นอะรัยซะหน่อย”
“แล้วเมื่อคืนนี้หมาตัวไหนนอนร้องไห้จนหลับน้ำตาเปียกหมอนวะ”
บอยกระซิบถาม
“ไม่รู้ มันตายไปแล้วเว้ย ตอนนี้มีแต่หมาที่ร่าเริงเว้ย”
“เออ กูจะพยายามเชื่อดู”
“บอย มึงเล่นกีต้าร์ทีได้ป่าว พอดีคืนนี้พ่อเขาจะทำเทเซ่อ่ะ”
“หึ กูเล่นเป็นแต่ออร์แกนอ่ะดิ กีต้าร์กูไม่ถนัดไม่บอกไอ้นนท์ล่ะ”
“หึ กูไม่พูดกะมันอ่ะ”
“เรื่องอะไรอีกล่ะมึง”
“ก็...มันเป็นเพื่อนกะไอ้นั่นอ่ะดิ”
“มึงบ้าป่าว แล้วมึงไม่ใช่เพื่อนมันรึไง เดี๋ยวกูบอกมันเอง โอเคนะ”
เลยตามเลย ในเมื่อบอยมันบอกให้ จริงแล้วไม่ได้โกรธไอ้นนท์มากหรอกนะ แต่ด้วยทิฐิมั้ง เลยไม่ยอมไปพูดกะมันก่อน
หลังอาหารเช้าวันนั้นมีการแบ่งกลุ่มเพื่อแบ่งปันพระวาจากัน ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไร ทำให้ผมต้องไปอยู่กลุ่มเดียวกับไอ้ตั้ม ก่อนเริ่มคุณพ่ออธิการนำสวดภาวนาหลังจากนั้นก็ร้องเพลงจงแสวงหา จากนั้นคุณพ่อให้ผมเป็นคนเลือกบทอ่าน โดยวิธีการเลือกคือ นำพระคัมภีร์มาแล้วอธิษฐานจากนั้นเปิดไปหน้าไหนได้ ให้เลือกข้อความที่อ่านแล้วประทับใจมากที่สุด
ตอนนั้นผมอธิษฐาน ขอให้มีทางออก ในเรื่องที่ผมรู้สึกว่ากำลังประสบกับความทุกข์ใจอยู่เมื่อผมเปิดไปก็เป็นจดหมายจากนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 1 ข้อความที่ประทับใจนั้นมีอยู่ว่า
“เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็ก คิดอย่างเด็ก ใคร่ครวญหาเหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการเด็กเสีย
เพราะว่าบัดนี้เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจก แต่เวลานั้นจะได้เห็นหน้ากันชัดเจน เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ารู้แต่ส่วนหนึ่ง แต่เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนได้รู้จักข้าพเจ้าแล้วด้วย
ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ ความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด”
“กานต์ ลูกเข้าใจความหมายของบทอ่านตอนนี้มั้ย”
“ไม่ค่อยแน่ใจครับ คุณพ่อ”
“ความรัก คืออะไร ความรักคือ การแบ่งปัน Love is sharing ความรักคือการให้ กานต์ ความรักที่พระทรงมอบให้มนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่นะลูก คำว่าความรัก ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความสัมพันธ์กันทางกาย ขอเพียงความสัมพันธ์กันทางใจ ความรักนั้นเป็นสิ่งที่ดี ....”
จริงๆแล้วคุณพ่อท่านอธิบายมากกว่านี้แต่ผมเองจำไม่ค่อยได้เพราะมันนานมากแล้ว ตอนนั้นผมไม่ได้คิดเลยว่าคุณพ่อท่านต้องการที่จะสื่ออะไรบางอย่างถึงผม ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเปิดเจอบทอ่านหน้านั้น บางทีคำแนะนำที่ดีที่สุด เรากลับไม่ได้ให้ความสำคัญ เป็นเราเองที่ผลักไสสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเราออกไปเอง เป็นเราที่ทำลายสิ่งที่พยายามสร้างมันขึ้นมา ทำไมคนเราถึงไม่รู้ตัวกันเลย เวลาที่ทำลายสิ่งที่สำคัญลงไป
CruelMaster- Admin
- จำนวนข้อความ : 144
เฟรน โกล์ : 397444
ชื่อเสียง : 2
Join date : 16/03/2010
: 26
ที่อยู่ : 159/7 ถนน ประชาอุทิศ ตำบล ท่าตะเภา อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
เหรียญ
เหรียญมาร: 1
Similar topics
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่16 : เบส
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่34 :
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่2 : การผูกพันของใจ2ใจ
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่36 : บูม(1)
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่4 : วาเลนไทน์ครั้งแรก
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่34 :
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่2 : การผูกพันของใจ2ใจ
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่36 : บูม(1)
» [นิยายเกย์] เรื่องนี้ไม่มีชื่อ ตอนที่4 : วาเลนไทน์ครั้งแรก
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|